ตัวเรือดคืออะไร มีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน ?
ในอดีตประเทศไทยมีตัวเรือดเพียงแค่ชนิดเดียว ซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า cimex hemipterus ช่วงศตวรรษที่ 20 ได้พบตัวเรือดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า cimex lectulariu สายพันธุ์นี้พบในประเทศญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา แคนาดา และอีกหลายประเทศในทวีปอเมริกาใต้ และยุโรป ที่มีแพร่กระจายตามเรือสินค้าของอเมริกาไปยังฝั่งยุโรป เมื่อประเทศไทยมีการเปิดประเทศ ตัวเรือดก็เลยแพร่กระจายเข้ามาตามนักท่องเที่ยวโลก
จนทำให้ประเทศไทยเคยประสบปัญหาเกี่ยวกับการแพร่กระจายของตัวเรือด กระทบต่อเศรษฐกิจ พบระบาดมากที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ชลบุรี กรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิจัย และคิดค้นวิธีการกำจัดตัวเรือดให้สูญพันธุ์ แต่ด้วยความที่ตัวเรือดเป็นแมลงที่ดื้อต่อสารเคมี คนที่ผลิตยาฆ่าแมลงเขาเลยต้องปรับเปลี่ยนสูตรให้แรงขึ้นเพื่อสู้กับตัวเรือด แต่ก็ยังไม่ได้ผล ด้วยการปรับตัวของตัวเรือดที่มีความไว ทำให้ดื้อยา
วงจรชีวิตของตัวเรือด
- ระยะวางไข่
ไข่ของตัวเรือดมีสีขาวปนเหลือง ลักษณะเป็นฝ้าใสๆให้แสงลอดได้บ้าง มีขนาดเล็กประมาณ 1 มิลลิเมตร ลักษณะของไข่ด้านหน้าจะมีฝาปิด และมีส่วนโค้งเล็กน้อย - ระยะตัวอ่อน
ตัวอ่อนมีความคล้ายกับตัวแก่ แต่จะมีลำตัวสีขาว ยาวประมาณ 1.5 มิลลิเมตร และยังไม่เคลื่อนไหว จนกระทั่งอายุได้ 1 วัน จึงเริ่มออกหาอาหารดด้วยการดูดเลือด - ระยะตัวแก่
มีลักษณะสีน้ำตาลแดง หรือน้ำตาล รูปร่างแบน ลำตัวแบ่งออกเป็นปล้องประมาณ 8 ปล้อง
ลักษณะของตัวเรือด
ตัวเรือด (Bed bugs) เป็นแมลงที่มีขนาดเล็ก ลำตัวกว้างเป็นรูปไข่ และมีลักษณะตัวแบนสีน้ำตาลอ่อน มีลำตัวยาวประมาณ 0.15 จนถึง 0.5 เซนติเมตร มีหัวสั้นหนวดติดป้องปาก และตัวเรือด สามารถวางไข่ได้ถึงครั้งละ 200-500 ฟอง และฟักเป็นตัวได้ภายใน 4 วันถึง 20 วัน และปากของตัวเรือดสามารถเจาะรูเพื่อทำการดูดเรือด หลังจากที่ดูดเลือดจะมีลำตัวยาวและมีสีคล้ำ ลำตัวเหมือนเมล็ดข้าวสารมีน้ำหนักตัวเพิ่มถึง 5-8 เท่า สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า โดยตัวเรือดอาศัยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และความร้อนที่ออกมาจากร่างกายของคน
อาการหลังโดนตัวเรือดกัด
อาการส่วนใหญ่หลังจากที่ดูดเลือด จะพบรอยตุ่มแดงตามตัว และมีอาการคัน โดยเฉพาะบริเวณที่โดนดูดเลือด ใบหน้า คอ แขน และมือ ซึ่งจะสามารถหายได้เองภายในไม่กี่วัน โดนอาจจะต้องประคบเย็น และทายาอย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าหากคนที่เกิดอาการแพ้จะมีผื่นคัน และเกิดการอักเสบของผิวหนังจะทำให้อาการคันหายยากขึ้น ซึ่งหากท่านใดที่พบอาการแพ้ จะต้องเข้ารับการรักษาโดยแพทย์เข้าช่วย
ลักษณะนิสัยของตัวเรือด
สัญชาตญาณสุดเฉลียวฉลาดของมันนั้นจะรู้ทันทีในเวลาที่คุณจะเข้านอนเพราะว่าเวลาคุณหายใจลึกๆคุณจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจำนวนมากนี่แหละที่จะรอดตัวเลือดออกมา ซึ่งในการดูดเลือด 1 ครั้งมันสามารถอยู่ได้นานถึง 5 เดือนไปจนถึง 1 ปีตัวเลือดจะมีตะขอเล็กๆที่ขา 2 ข้าง ทำให้มันซ่อนตัวเก่งมากๆ และสามารถซ่อนตัวได้ทุกที่ โดยเราสังเกตุได้จาก การถ่ายมูลสีดำ มีกลิ่นคล้ายแอมโมเนีย นั่นแหละคือที่ซ่อนของตัวเรือด และอาจจะหาได้จากรอยร้าวของกำแพง รูปลั๊กไฟ โซฟา ผ้าม่าน ลิ้นชัก ชักโครก กระเป๋าเดินทาง หรือแม้กระทั่งของใช้ภายในบ้าน ซึ่งตัวเรือดจะออกล่าเหยื่อในเวลากลางคืน ส่วนมากจะพบในบริเวณโรงแรม ห้องนอน
วิธีการกำจัดตัวเลือดเบื้องต้น ทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆ
1. ซักผ้าและชุดเครื่องนอนด้วยความร้อนสูงถึง 45 องศาขึ้นไปนานกว่า 20 นาทีเพื่อทำการฆ่าตัวเลือดและไข่ของตัวเลือดที่ได้วางไว้
2. อุดรอยร้าวและรอยแตกของกำแพงเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาศัยของตัวเลือด
3. ดูดฝุ่นและใช้เครื่องพ่นไอน้ำที่มีความร้อนสูง
4. หลังจากทำความสะอาดแล้วให้ฉีดสเปรย์กำจัดตัวเลือดในทุกๆเดือนและคอยเช็คว่ายังพบตัวเลือดหรือไม่ แต่ถ้าหากยังพบก็ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการ กำจัดตัวเรือด เพื่อไม่ให้ประสบปัญหาอีกต่อไป