
หนูแฮมเตอร์คืออะไร
“หนูแฮมเตอร์” หรือ “Hamster” เป็นสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมในฐานะสัตว์เลี้ยงในบ้านทั่วโลก เป็นสัตว์เล็กๆ ที่มักจะถูกนำเลี้ยงโดยเด็กและผู้ใหญ่ มีลักษณะเด่นคือมีตัวเล็ก ๆ และมีหางสั้น ตัวสีหลากหลาย เหมาะสำหรับการเลี้ยงในเครื่องกระติกหรือกรงขนาดเล็กในบ้าน มีสายพันธุ์และสีขนที่หลากหลาย ซึ่งทำให้คุณสามารถเลือกสัตว์ที่คุณชื่นชอบได้ตามความสวยงามและลักษณะที่คุณต้องการ
หนูแฮมเตอร์มีพฤติกรรมที่น่ารัก เช่น การวิ่งเล่นในลูกบอลในกรงของพวกเขา การสะสมอาหารในแก้วหรือกรงและมักจะมีการเคลื่อนไหวมากในช่วงค่ำคืน เป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่ต้องการพื้นที่ใหญ่มาก และมีอาหารพืชและเม็ดในอาหารเดือนที่พอง่ายต่อการดูแลรักษา
ควรระมัดระวังในการเลี้ยงหนูแฮมเตอร์ เพราะพวกเขาเป็นสัตว์ที่ลอบรับสิ่งของเล็กๆ ในกรงและอาจมีปัญหาเรื่องการเจาะกรงหรือบรรจุของเล่นไปในกรงของพวกเขา นอกจากนี้ควรรักษาความสะอาดในกรงและให้อาหารที่เหมาะสมเพื่อให้หนูแฮมเตอร์มีสุขภาพที่ดีและมีความสุขในการเลี้ยงในบ้านของคุณได้เต็มที่
ลักษณะทั่วไป
หนูแฮมสเตอร์มีขนาดเล็ก ลำตัวกลม ขนสั้น หางสั้น มีฟันหน้ายาวตลอดชีวิต ฟันกรามจะหยุดงอกเมื่อโตเต็มที่แล้ว แฮมสเตอร์มีถุงเก็บอาหารข้างแก้ม (cheek pouches) ซ้ายและขวาอย่างละ 1 ถุง ที่สามารถขยายไปถึง กระดูกสะบัก (scapula) เพื่อกักเก็บอาหารได้
สายพันธุ์
หนูแฮมสเตอร์มีสายพันธุ์ต่างๆ มากมาย ที่นิยมเลี้ยงกันในประเทศไทย ได้แก่
- หนูแฮมสเตอร์ซีเรีย (Syrian hamster) มีขนาดตัวใหญ่ที่สุด ขนยาว มีสีสันหลากหลาย เช่น เทา น้ำตาล ขาว ดำ
- หนูแฮมสเตอร์แคระโรโบรอฟสกี้ (Dwarf hamster Roborovski) มีขนาดตัวเล็กที่สุด ขนสั้น มีสีสันเดียวคือน้ำตาลอ่อน
- หนูแฮมสเตอร์แคระแคมป์เบลล์ (Dwarf hamster Campbell) มีขนาดตัวกลาง ขนสั้น มีสีสันหลากหลาย เช่น เทา น้ำตาล ขาว ดำ
- อายุขัย หนูแฮมสเตอร์มีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 2-3 ปี

การเลี้ยงดู
หนูแฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ต้องการการดูแลเพียงเล็กน้อย ดังนี้
- กรงเลี้ยง ควรมีขนาดใหญ่พอที่หนูแฮมสเตอร์จะสามารถวิ่งเล่นได้ มีอุปกรณ์ต่างๆ เช่น บ้าน ล้อวิ่ง ท่อลอด เพื่อให้หนูแฮมสเตอร์ได้ออกกำลังกาย
- อาหาร ควรเป็นอาหารสำเร็จรูปสำหรับหนูแฮมสเตอร์ หรืออาจให้เมล็ดพืช ผัก ผลไม้ เสริมบ้าง
- น้ำ ควรมีน้ำสะอาดให้หนูแฮมสเตอร์ดื่มตลอดเวลา
- การดูแลความสะอาด ควรเปลี่ยนทรายรองกรงอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
- ข้อควรระวัง หนูแฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่ค่อนข้างตื่นตกใจง่าย หากจับหรืออุ้มอย่างไม่ระมัดระวัง อาจทำให้หนูแฮมสเตอร์กัดได้
โรคที่พบ
หนูแฮมสเตอร์เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักและดูแลง่าย แต่ก็สามารถเป็นโรคต่างๆ ได้เช่นกัน โรคที่พบในหนูแฮมสเตอร์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
- โรคติดเชื้อ เกิดจากเชื้อโรคต่างๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา เป็นต้น โรคติดเชื้อที่พบในหนูแฮมสเตอร์ ได้แก่
- โรคหวัด (common cold) เกิดจากเชื้อไวรัส มีอาการจาม มีน้ำมูก ตาแฉะ
- โรคปอดบวม (pneumonia) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา มีอาการไอ หายใจลำบาก
- โรคท้องเสีย (diarrhea) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส มีอาการถ่ายเหลว อาเจียน
- โรคขี้เรื้อน (mites) เกิดจากไร มีอาการคัน ขนร่วง
- โรคเห็บ (fleas) เกิดจากเห็บ มีอาการคัน
- โรคพยาธิ (worms) เกิดจากพยาธิต่างๆ เช่น พยาธิตัวกลม พยาธิตัวตืด มีอาการท้องเสีย น้ำหนักลด
- โรคไม่ติดเชื้อ เกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น โภชนาการ สิ่งแวดล้อม อุบัติเหตุ เป็นต้น โรคไม่ติดเชื้อที่พบในหนูแฮมสเตอร์ ได้แก่
- โรคอ้วน (obesity) เกิดจากกินอาหารมากเกินไป ออกกำลังกายน้อยเกินไป
- โรคฟันยาว (malocclusion) เกิดจากฟันงอกผิดปกติ ไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้
- โรคแก้มเน่า (canker) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย มีอาการปากบวม เจ็บ
- โรคนิ่ว (urinary stones) เกิดจากความผิดปกติในการขับถ่ายปัสสาวะ
- โรคมะเร็ง (cancer) พบได้น้อยในหนูแฮมสเตอร์
- เจ้าของควรสังเกตอาการของหนูแฮมสเตอร์อย่างใกล้ชิด หากพบความผิดปกติควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที
วิธีป้องกันโรคในหนูแฮมสเตอร์
- เลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ในสภาพแวดล้อมที่สะอาด ปราศจากเชื้อโรค
- ให้อาหารและน้ำสะอาดแก่หนูแฮมสเตอร์
- พาหนูแฮมสเตอร์ไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำ
- แยกหนูแฮมสเตอร์ที่ป่วยออกจากหนูแฮมสเตอร์ที่แข็งแรง
- เจ้าของควรดูแลหนูแฮมสเตอร์อย่างเหมาะสม เพื่อให้หนูแฮมสเตอร์มีสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาว
หนูแฮมสเตอร์เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักและดูแลง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจเลี้ยงควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหนูแฮมสเตอร์ให้ละเอียด เพื่อจะได้ดูแลหนูแฮมสเตอร์ได้อย่างเหมาะสม